中泰铁路是如何发展的？

中泰铁路是中国投资泰国铁路的合作项目，未来连接我国云南昆明和泰国首都曼谷。为巴育政府上台后，批准的8年基础设施建设项目中的一部分。

原文：

นักข่าว1 เรื่องของการสร้างโครงสร้างพื้นฐานนะครับก็คือรถไฟความเร็วสูงถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่คนไทยเนี่ยฝันถึงมาตลอดบอกว่าอยากใช้แล้วนะครับเมื่อไหร่จะเริ่มสร้างสักทีวันนี้เรามีอัพเดทกันมานะคุณผู้ชมเนื่องจากว่ารัฐบาลไทยของเรามีการเลื่อนโครงการสร้างทางรถไฟความเร็วสูงไปแล้วเนื่องจากเหตุผลหลายประการหนึ่งในนั้นเนี่ยก็คือเป็นเพราะว่าเงื่อนไขหลายอย่างที่ทำให้เราเสียเปรียบเยอะทีเดียวครับสำนักข่าวNikkeiAsianReviewของญี่ปุ่นนะครับรายงานบอกว่ารัฐบาลไทยมีการเลื่อนโครงการสร้างทางรถไฟความเร็วสูงของจีนออกไปครับเนื่องจากว่าตอนนี้นะครับเรายังไม่สามารถตอบคำถามเกี่ยวกับการหาเงินทุนแล้วก็การกู้เงินในการสร้างโครงการซึ่งตอนนี้เนี่ยคาดว่าน่าจะมีมูลค่ากว่า9,900,000,000ดอลล่าห์นะครับโดยมีการอ้างอิงแหล่งข่าวภายในของภาคคมนาคมของไทยนะครับ บอกว่าการเจรจาเกี่ยวกับโครงการ beltandroadinitiativeหรือว่าBRIระหว่างรัฐบาลไทยแล้วก็รัฐบาลจีนเนี่ยตอนนี้ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดเผยด้วยนะครับว่ารัฐบาลไทยยังไม่สามารถที่จะตัดสินใจได้นะครับว่าเราจะหาเงินจากไหนมาสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงระหว่างสองอย่างเนี่ยก็คืออย่างที่หนึ่งการกู้เงินจากรัฐบาลของประเทศจีนนะครับแล้วก็อย่างที่สองก็คือการระดมเงินทุนจากพันธบัตรของประเทศไทยนอกจากนี้เนี่ยเจ้าหน้าที่คนนี้ยังเปิดเผยด้วยนะครับว่ารัฐบาลของเราตอนนี้ยังไม่มีเงินมากนักนะครับเนื่องจากว่ารัฐบาลมีการใช้เงินมากจนเกินไปแล้วในเรื่องของการสร้างโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆเพราะฉะนั้นเรื่องของรถไฟความเร็วสูงเนี่ยยังไม่เกิดขึ้นเร็วๆนี้แน่นอน

นักข่าว2 ใช่ค่ะแต่อย่างไรก็ตามเรื่องเงินทุนก็ไม่ใช่อุปสรรคเดียวของโครงการนี้ค่ะเจ้าหน้าที่คนนี้นะคะที่เกี่ยวข้องกับการเจรจาโครงการเนี่ยเปิดเผยว่าอุปสรรคอีกข้อก็คือรายละเอียดเงื่อนไขของโครงการค่ะว่าใครจะเป็นคนแบกภาระในการก่อสร้างค่ะรศ.ดร(รองศาสตราจารย์ดอกเตอร์)รุธิร์พนมยงค์จากสาขาวิชาบริหารธุรกิจระหว่างประเทศโลจิสติกส์และการขนส่งคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เขาบอกว่าTechnocratsThaiเนี่ยคาดหวังว่าจีนจะเอาบริษัทที่ปรึกษาของจีนมาตรวจสอบดูแลการก่อสร้างแต่จีนเนี่ยไม่มีส่วนรับผิดชอบใดๆกับรายละเอียดการก่อสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงค่ะ

นักข่าว1 เงื่อนไขที่ว่าเนี่ยก็ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญนะครับซึ่งทางรศ.ดร.รุธิร์นะครับได้กล่าวด้วยนะครับว่าเงื่อนไขตอนนี้ที่มันแตกต่างไปจากธรรมเนียมปฏิบัติทางธุรกิจทำให้Technocratsนะครับในกระทรวงพาณิชย์ของประเทศไทยแล้วก็กระทรวงคมนาคมมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับโครงการนี้ลดน้อยลงด้วยเนื่องจากว่ารถไฟความเร็วสูงสายแรกที่จะเชื่อมตั้งแต่กรุงเทพฯไปถึงหนองคายนะครับอาจจะมีการประเมินนะครับว่าการสร้างทางรถไฟความเร็วสูงเฟสแรกจะมีระยะทางทั้งหมด252 กิโลเมตรจากกรุงเทพไปโคราชนะครับต้องใช้เงินทั้งหมดประมาณ 179,000,000,000บาทครับ

นักข่าว2 ในรายงานนี้เขาก็ยังบอกอีกว่าที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีก็ดูเหมือนจะเห็นดีด้วยกับโครงการBRIของจีนมาตลอดและเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาไตรศุลีไตรสรณกุลรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีก็เพิ่งจะแถลงจากว่ารถไฟความเร็วสูงเฟสแรกเนี่ยจะเริ่มได้ในปี2023และเส้นทางรถไฟความเร็วสูงจากกรุงเทพฯไปหนองคายเนี่ยจะมีความยาวถึง873 กิโลเมตรค่ะ

นักข่าว1:ครับผมอย่างไรก็ตามนะครับคนที่อยู่ในวงการนี้โดยตรงนะครับ ไม่ว่าจะเป็นวงการการเงินนะครับคุณผู้ชมหรือว่าวงการการทูตของไทยต่างมองไปในทางเดียวกันนะครับว่าตอนนี้ยังไม่มีวี่แววนะครับที่แผนการในการสร้างรถไฟความเร็วสูงจะเริ่มต้นแต่อย่างใดเมื่อเดือนมกราคมนะครับก่อนที่จะมีการประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างรถไฟไทยจีนที่กรุงปักกิ่งนะครับเจ้าหน้าที่ไทยเนี่ยยังพิจารณาข้อเสนอในการให้กู้ยืมเงินนะครับจากธนาคารเพื่อการส่งออกและการนำเข้าของประเทศจีนในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ2.3ซึ่งไทยเนี่ยเรามองว่าดอกเบี้ยยังสูงเกินไปนอกจากนั้นแล้วคนวงในเนี่ยเขายังเปิดเผยด้วยนะครับว่าที่ผ่านมาบรรยากาศในการเจรจาระหว่างพลเอกประยุทธ์นะครับและนายกรัฐมนตรีของประเทศจีนนายหลี่เค่อเฉียงไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักนะครับในเรื่องของการเอาเงินมาสร้างรถไฟความเร็วสูงไทยกับจีนมีเรื่องขุ่นเคืองกันนะครับตั้งแต่2ปีก่อนหน้านี้แล้วด้วยเนื่องจากว่าจีนเนี่ยไม่ได้เชิญพลเอกประยุทธ์ไปประชุมฟอรั่มเกี่ยวกับโครงการBRIในรอบแรกทีนี้พอเดินเมษายนปีนี้เป็นต้นมาความสัมพันธ์ก็เริ่มที่จะกลับมาแน่นแฟ้นมากขึ้นหลังจากที่พลเอกประยุทธ์นะครับได้รับเชิญในการประชุมครั้งที่2นั่นเองแล้วก็นายกของเรานะครับบอกด้วยนะครับว่านายหลี่เค่อเฉียงเนี่ยบอกว่าไทยจะผลักดันโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงนะครับให้ทันเดทไลน์ภายในปี2023ทีนี้ก็ต้องติดตามดูกันนะครับว่าจะสามารถทำได้จริงๆหรือเปล่าแต่ว่าอย่างที่ทราบกันดีเรื่องของเงินทุนเนี่ยมีเงินสูงจริงๆเพราะฉะนั้นการจะเอาเงินมาจากไหนจะเป็นการกู้ยืมเงินหรือเปล่านะครับหรือว่าจะเป็นการขายพันธบัตรของไทยอันนี้ต้องตัดสินใจดีๆนะครับแล้วก็มีเงื่อนไขหลายประการที่ทำให้เราเนี่ยเห็นว่าเราอาจจะก าลังเสียเปรียบประเทศจีนอยู่นะครับ